ลองตั้งคำถามเพื่อสำรวจตัวเองสักหน่อยว่าคุณมีอาการเครียดบ้างหรือเปล่า?...ถ้าคำตอบคือใช่ นั่นไม่ใช่เรื่องแปลก ยืนยันได้จากผลสำรวจล่าสุดของกรมสุขภาพจิตที่ว่า คนวัยทำงานในกรุงเทพฯ ถูกความเครียดขโมยความสุขไปถึง 45% หรือจากผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360 องศา บริษัทประกันสุขภาพระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ก็ให้ข้อมูลที่น่าตกใจว่า คนไทย 91% ยอมรับว่าตนเองอยู่ในภาวะเครียด โดยเป็นตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 86%

    ซึ่งผลจากความเครียด ทำให้กลุ่มตัวอย่างเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา อาทิ  มีปัญหานอนไม่หลับ หรือนอนมากเกินไป, ทำให้เกิดอาการหงุดหงิด ว้าวุ่นใจ, รู้สึกเบื่อเซ็ง, มีสมาธิน้อยลง และมีความรู้สึกไม่อยากพบผู้คนบ่อยครั้ง  ความเครียดยังส่งผลกระทบในทางร้าย ต่อระบบร่างกายอย่างคาดไม่ถึง เนื่องจากความเครียดจะไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน อะดรีนาลิน สเตอรอยด์ ออกมา เมื่อฮอร์โมนนี้เข้าสู่กระแสเลือด จะทำให้การทำงานของอวัยวะสำคัญในร่างกายรวนไปหมด เช่น

    ปกติหัวใจเต้นประมาณ 60-70 ครั้งต่อนาที  เมื่อเกิดความเครียดหัวใจจะเต้นเร็วขึ้นเป็น 100-120 ครั้งต่อนาที สังเกตได้ว่าคนที่เครียด หัวใจจะเต้นแรงจนรู้สึกได้ ใจสั่น หรือรู้สึกเจ็บหน้าอก แล้วเกิดอาการเหนื่อย...

    เมื่อคนทำงานหลายคนจับสังเกตตัวเองได้ถึงปัญหาความเครียด และพยายามหาทางแก้ไข หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือ การใช้ธรรมชาติบำบัด นั่นเพราะมีคำยืนยันถึงสิ่งดี ๆ ที่ได้จากธรรมชาติ อาทิ

• เดวิด เสตรเยอร์ นักจิตวิทยากลุ่มการรู้คิด มหาวิทยาลัยยูทาร์วิจัยพบว่า ชีวิตสมัยใหม่ส่งผลกระทบต่อผู้คน และยาถอนพิษที่ชะงัดที่สุดคือ ธรรมชาติ เขาบอกว่าสมองมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักรกล สมองเหนื่อยง่ายมาก แต่เมื่อคนเราใช้ชีวิตช้าลง วางมือจากภาระการงานอันยุ่งเหยิง และดื่มด่ำกับธรรมชาติงดงามรอบตัว ร่างกายจะฟื้นตัว และสมองสดชื่นขึ้นด้วย
• ปี 2009 นักวิจัยชาวดัตช์พบว่า คนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบพื้นที่สีเขียวมีอัตราการเกิดโรค 15 โรคต่ำลง เช่น ภาวะซึมเศร้า, อาการวิตกกังวล, โรคหัวใจ, เบาหวาน, หืด, ไมเกรน
• ทีมนักวิจัยนานาชาติสำรวจสุขภาพชาวโตรอนโตกว่า 31,000 คนที่อาศัยในบริเวณที่มีต้นไม้มาก มีอัตราการเสียชีวิต และปริมาณฮอร์โมนเครียดในระบบไหลเวียนโลหิตที่ต่ำลง

1. ออกไปข้างนอกเพื่อหาธรรมชาติ และสูดอากาศบริสุทธิ์ วิธีนี้จะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจลดลง ความดันโลหิตเป็นปกติ อารมณ์แจ่มใส กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ช่วยลดฮอร์โมนแห่งความเครียดได้

2. ทำสวนปลูกต้นไม้ ดูธรรมชาติรอบตัว เมื่อทำแล้วร่างกายจะหลั่งสารฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา ลดความเครียดลงได้

3. สัมผัสกับแสงแดด แสงสว่างจากดวงอาทิตย์รักษาความหดหู่ใจได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะแสงแดดในยามเช้า

4.หยุดพักแล้วเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างสัก 5 นาที ซึ่งควรมีวิวนอกหน้าต่างที่มีธรรมชาติ ต้นไม้ สีเขียวที่จะช่วยให้คุณเกิดความผ่อนคลาย


5. สร้างพื้นที่ธรรมชาติแสนสงบที่เป็นส่วนตัว พื้นที่นั้นไม่จำเป็นต้องกว้างขวาง แต่ควรมีธรรมชาติที่คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความสงบ อาจจะเป็นระเบียงที่รายรอบด้วยต้นไม้ดอกไม้ มีเก้าอี้นั่งสบายที่ช่วยให้ผ่อนคลาย

6. สูดกลิ่นดอกไม้ กลิ่นดอกไม้ช่วยปรับอารมณ์คุณได้ อาจหาแจกันสวย ๆ ใส่ดอกไม้ที่ชอบวางไว้บริเวณที่คุณนั่งทำงาน หรือรอบ ๆ ห้องก็ช่วยสร้างความรู้สึกที่ดีได้


     จะเห็นว่าในคำแนะนำทั้งหมด ล้วนแต่เป็นการนำตัวเองไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ หรือไม่ก็นำธรรมชาติมาไว้ใกล้ ๆ ตัว ดังนั้นคงจะดีไม่น้อยถ้ามีที่พักอาศัย ที่เราสามารถชาร์ตพลังได้เต็มที่ กับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ที่จะดึงเราให้พ้นจากความวุ่นวาย เข้าสู่ความสงบร่มรื่นของธรรมชาติได้ทุกเวลาที่ต้องการเอ็ม จตุจักรโครงการจากเครือ Major Development คือโครงการคอนโดมิเนียม ที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่รักธรรมชาติได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก เอ็ม จตุจักร ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Urban Forest ที่ได้แรงบันดาลใจจากเส้นสาย และโทนสีของธรรมชาติจากผืนป่า สู่งานออกแบบภูมิทัศน์ ทำให้โครงการ เอ็ม  จตุจักร แห่งนี้มีความผ่อนคลาย เหมาะสำหรับใช้หลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ในชีวิตทำงานประจำวัน โดยคุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การพักผ่อน ผ่านความต่อเนื่องของพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ จากแผ่นดินสู่ตึกสูง อย่างที่ไม่เคยได้จากที่ไหนมาก่อน และเมื่อมาผสานกับการออกแบบภายใน ที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย ไม่น้อยไปกว่าความสวยงาม จึงนับเป็นโครงการที่เหมาะกับการใช้ชีวิตเพื่อให้เกิดความสมดุลแบบ Work Life Balance ของคนในยุคปัจจุบันอย่างที่สุด