บทความโดย DDproperty:

คอนโดมิเนียมส่วนใหญ่มักมีเนื้อที่ที่ค่อนข้างจำกัด จึงต้องไปลดทอนบางส่วนเพื่อให้สามารถมียูนิตเพิ่มขึ้น ดังนั้น บ่อยครั้งเราจึงเห็นภาพโครงการคอนโดมิเนียมที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับที่จอดรถมากพอ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว “ที่จอดรถ” ถือเป็นอีกปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่ส่งผลต่อการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีรถยนต์ส่วนตัว แน่นอนว่าต้องการพื้นที่สำหรับจอดรถภายโครงการ หากคอนโดมิเนียมไม่มีพื้นที่จอดรถเพียงพอ ก็ย่อมส่งผลเสียต่อลูกบ้านเพราะไม่รู้จะเอารถไปจอดไว้ที่ไหน หากจะให้ไปจอดด้านนอกโครงการก็เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายและเสี่ยงอันตราย

จากต้นตอปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอนี้เอง ทำให้ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในปัจจุบันพยายามหาทางแก้ไข เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นการจัดสรรพื้นที่จอดรถจึงต้องออกแบบให้ดี รองรับความต้องการใช้งานของลูกบ้านให้ได้มากที่สุด นั่นจึงเป็นที่มาของนวัตกรรมที่จอดรถแบบอัตโนมัติ หรือ “Auto Parking”



Auto Parking ทางเลือกใหม่ของการจอดรถบนพื้นที่จำกัด

เมื่อพื้นที่มีจำกัด การจะทำที่จอดรถในลักษณะอาคารสูงหลายชั้น หรือทำเป็นลานจอดกว้าง ๆ รองรับรถได้หลายสิบคันนั้นอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่หากสามารถสร้างพื้นที่แนวตั้งขนาดเล็ก เพียงพอในการนำรถยนต์ 1 คันเข้าไปจอด แล้วซ้อนกันขึ้นไปเป็นชั้น ๆ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการแทน ก็จะช่วยให้ประหยัดพื้นที่และเวลาได้อย่างมาก ซึ่ง Auto Parking คือทางออกที่ว่านี้

ทั้งนี้ ในต่างประเทศมีการใช้ระบบจอดรถแบบ Auto Parking มานานแล้ว แต่สำหรับในประเทศไทย เพิ่งเริ่มพัฒนาที่จอดรถในลักษณะนี้ได้ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง และกำลังแพร่หลายมากขึ้น เนื่องจากเป็น “ตัวช่วย” ที่สามารถตอบโจทย์คนเมืองที่อยู่ในคอนโดมิเนียมได้เป็นอย่างดี

Auto Parking มีแบบไหนบ้าง

โดยปกติแล้ว Auto Parking จะรองรับรถยนต์ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2,350 กิโลกรัม แต่หากรถมีน้ำหนักมากหรือขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานทั่วไป จะต้องใช้ช่องจอดแบบพิเศษที่ออกแบบสำหรับรถคันใหญ่โดยเฉพาะ สำหรับช่องจอดของ Auto Parking จะมีขนาด 15-20 ตารางเมตร/คัน เทียบกับช่องจอดในอาคารจอดรถทั่วไป จะอยู่ที่ประมาณ 30-45 ตารางเมตร/คัน ถือว่าประหยัดที่จอดรถไปได้อย่างมาก โดย Auto Parking มีทั้งหมด 4 รูปแบบด้วยกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของการออกแบบและเทคโนโลยีในการนำรถเข้าไปจอด ได้แก่

1. Tower Parking

ที่จอดรถอัตโนมัติแบบทั่วไป พบมากตามอาคารสูง มีจำนวนหลายสิบชั้น เช่น อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม เหมาะสำหรับจอดรถได้ 50-300 คัน ในแนวตั้ง

2. Puzzle Park Lift

ที่จอดรถที่ใช้กลไกการเลื่อนและการยกผสมผสานกันในการนำรถเข้าไปจอด สามารถจัดพื้นที่จอดได้อย่างคุ้มค่า เป็นสัดส่วน ไม่จำกัดจำนวนชั้นและจำนวนรถ ขึ้นอยู่โครงการสร้างอาคาร พบมากในอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล สถานศึกษาต่าง ๆ

3. Stacking

ที่จอดรถที่ใช้กลไกการยกเท่านั้น ไม่ใช้เลื่อน โดนจะยกขึ้นบนหรือนำไปไว้ใต้ดินก็ได้ เป็นรูปแบบที่ไม่ซับซ้อนและค่อนข้างง่าย เหมาะสำหรับที่อยู่อาศัยขนาดกลาง ต้องการพื้นที่เดิมสำหรับจอดรถได้มากขึ้น แต่ไม่ต้องการสร้างที่จอดรถเพิ่ม

4. Lifting Parking

ที่จอดรถที่ใช้กลไกการยกรถขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง อาศัยการใช้ลิฟต์ พบมากในอาคารที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง

ทั้งนี้ ที่จอดรถแต่ละแบบจะมีการใช้กลไกและเทคโนโลยีที่แตกต่างกันออกไป รองรับการจอดรถในจำนวนที่แตกต่างกันไปด้วย หากพูดถึง Auto Parking ในคอนโดมิเนียม ก็มักจะนิยมรูปแบบแรก นั่นคือแบบ Tower Parking สามารถจอดรถได้หลายร้อยคันและยังเหมาะกับโครงสร้างของอาคารพักอาศัยอีกด้วย

Auto Parking มีข้อดีอย่างไรบ้าง

จะเห็นได้ว่าระบบจอดรถแบบ Auto Parking ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องจากมีข้อดีมากมาย ดังนี้

1. ประหยัดพื้นที่จอดรถมากกว่าอาคารจอดรถปกติ

Auto Parking ช่วยให้ประหยัดพื้นที่จอดรถได้มากกว่าการจอดบนอาคารหรือลานจอดแบบปกติ ได้หลายเท่าตัว จากการที่ขนาดช่องจอดลดลง ไม่ต้องเผื่อพื้นที่สำหรับขับวนรถและไม่มีพื้นที่ให้คนขับเดินภายในอาคารจอด นอกจากนี้ยังสามารถจัดเรียงช่องจอดได้อย่างเป็นระเบียบอีกด้วย

2. ประหยัดเวลาในการจอดรถ

การจอดรถแบบปกติ ต้องใช้เวลาในการขับรถวนหาที่จอดนานพอสมควร แต่ Auto Parking จะเข้ามาทำหน้าที่จัดการจอดรถแทนเราได้อย่างง่ายดาย ตามระบบที่ตั้งไว้ โดยไม่ต้องมาเสียเวลาหาที่จอดรถเองอีกต่อไป

3. เพิ่มพื้นที่ส่วนกลางส่วนอื่น ๆ ได้มากขึ้น

เมื่อใช้พื้นที่จอดรถน้อยลง ทางโครงการก็สามารถนำพื้นที่ไปพัฒนาเป็นส่วนกลางอื่น ๆ ได้มากขึ้น ช่วยให้ลูกบ้านสามารถใช้งานส่วนกลางได้หลากหลายและมีพื้นที่มากขึ้น

4. มีความปลอดภัย และลดอุบัติเหตุในอาคารจอดรถ

บ่อยครั้งที่มักมีอันตรายเกิดขึ้นในอาคารจอดรถ เช่น รถถูกทุบ ถูกงัดแงะ หรืออาชญากรรมอื่น ๆ รวมถึงปัญหาเฉี่ยวชนจากการขับขี่ที่ไม่ระมัดระวัง แต่หากใช้ Auto Parking ก็จะช่วยลดอันตรายเหล่านี้ได้ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งทำให้คนแทบจะไม่ต้องเข้าไปวุ่นวายในโซน Auto Parking เลย

5. ลดปัญหาการเผาผลาญเชื้อเพลิงโดยไร้ประโยชน์

การวนหาที่จอดรถ มีการเผาผลาญน้ำมันหรือเชื้อเพลิงค่อนข้างมาก เกิดเป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและในอาคารจอดรถ ดังนั้น การใช้ Auto Parking จะช่วยลดปัญหามลพิษ และเป็นการช่วยลดการใช้พลังงานได้ด้วย

เมทริส ลาดพร้าว คอนโดมิเนียมที่มี Auto Parking ถึง 58%

หากพูดถึงคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ที่ใช้ระบบ Auto Parking มักจะมีพื้นที่จอดรถให้ไม่มาก บางโครงการมีไม่ถึง 50% ผสมไปกับพื้นที่จอดรถแบบปกติ แต่สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จ พร้อมอยู่ อย่างโครงการเมทริส ลาดพร้าว (METRIS Ladprao) มีที่จอดรถแบบ Auto Parking ให้กับลูกบ้านถึง 58% จากจำนวนยูนิตทั้งหมดในโครงการ 193 ยูนิต 

ถือว่าให้สัดส่วนที่ค่อนข้างเยอะสำหรับโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าเพียง 250 เมตรเท่านั้น โดยที่จอดรถบริเวณชั้นที่ 2-8 จะเป็นแบบ Auto Parking ทั้งหมด ทำให้ไม่ต้องใช้พื้นที่โครงสร้างอาคารมากนัก แถมยังบริหารจัดการที่จอดรถได้ง่าย หายห่วงด้วยระบบดูแลรักษาความปลอดภัย เอื้อต่อการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมยุคใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่และคนมืองได้อย่างแท้จริง

โครงการเมทริส ลาดพร้าว คอนโดมิเนียม High-Rise สูง 29 ชั้น เป็นส่วนตัวยิ่งขึ้นด้วยจำนวนยูนิตเพียง 193 ยูนิต มีแบบห้องให้เลือกถึง 3 แบบ ได้แก่

- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 30-31 ตารางเมตร

- 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 44-52.50 ตารางเมตร

- 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 51-61 ตารางเมตร

ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ได้แก่ สวนพักผ่อนดาดฟ้า, ห้องสมุด, ฟิตเนสครบวงจร, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, ลานบาร์บีคิว และทางเดินออกกำลัง รวมทั้งยังเป็นคอนโดมิเนียมที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้

เดินทางสะดวกสบายเหมือนทุกอย่างอยู่ใกล้แค่เอื้อม

- ห่างเพียง 250 เมตร จากรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน

- ห่างเพียง 5 นาที จากเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

- ห่างเพียง 5 นาที จากยูเนี่ยน มอลล์

- ห่างเพียง 5 นาที จากโรงเรียนหอวัง

- ห่างเพียง 10 นาที จากรถไฟฟ้า BTS หมอชิต

- ห่างเพียง 30 นาที จากสนามบินดอนเมือง

ผู้สนใจรายละเอียดโครงการเมทริส ลาดพร้าว สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-116-1111 หรือ คลิก

 อ่านบทความจาก DDproperty เพิ่มเติม > คลิก