1. ซื้อคอนโดย่อมดีกว่าเช่าอยู่แล้ว

เป็นคำพูดที่มักได้ยินอยู่บ่อย ๆ ทั้งยังกระตุ้นให้นักลงทุนมือใหม่ซื้อคอนโดกันแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง  ความจริงแล้วการเป็นเจ้าของคอนโดย่อมดีกว่าจริง เพราะจะทำให้คุณมีอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว ทั้งยังสามารถนำไปลงทุนต่อยอดได้อีก แต่ก็ไม่ใช่จะดีเสมอไป โดยเฉพาะถ้าคุณไม่มีความพร้อม ไม่ว่าจะสถานะภาพทางการเงิน หรือกับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องใช้ในการลงทุนคอนโด ดังนั้น จึงควรพิจารณาความพร้อมเสียก่อน อย่าฝืน ไม่อย่างนั้นจะลำบากกว่าการเช่าอย่างแน่นอน


2. เลือกคอนโดจากทำเลที่คุ้นชิน หรือใกล้กับที่อยู่เดิม

ความคิดเช่นนี้ถือเป็นการตีกรอบที่แคบเกินไปให้กับตัวเอง ในฐานะนักลงทุนคอนโด คุณควรมองหาตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด ด้วยการละทิ้งความเคยชิน แล้วเปิดกว้างมองหาสิ่งที่ดีกว่า


3. ซื้อคอนโดตามนักวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับ

แน่นอนบุคคลเหล่านี้มีประสบการณ์ในการลงทุนมากพอที่จะชี้แนะได้ แต่อย่าลืมว่า ต้นทุนในการลงทุนคอนโดของแต่ละคนไม่เท่ากัน คอนโดที่นักวิเคราะห์ฟันธงว่าดี อาจจะไม่เหมาะกับความพร้อมของคุณก็เป็นได้

4. ต้องซื้อเฉพาะแบรนด์ดัง ๆ ราคาแพง ๆ เท่านั้น

โครงการคอนโดจากแบรนด์ดังที่มีความน่าเชื่อถือ ย่อมการันตีถึงผลลัพธ์ดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่า คุณภาพ กับราคามักจะมาควบคู่กัน ดังนั้น ถ้าคุณเป็นมือใหม่หัดซื้อคอนโดที่มีงบประมาณจำกัด ควรสำรวจความพร้อมของตัวเองด้วย เพื่อไม่ให้ลำบากกับภาระการผ่อนชำระในภายหลัง


5. ประเมินความสามารถในการกู้ซื้อคอนโดต่ำเกินไป

ด้วยหลายคนอาจใช้หลักคิดที่ว่า ธนาคารปล่อยให้กู้แค่ 40% หรือไม่ก็ 1 ใน 3 ของเงินเดือนเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วข้อมูลปัจจุบัน คิดง่าย ๆ จะอยู่ที่หมื่นละล้าน เช่น เงินเดือน 3 หมื่นก็อาจจะได้ 3 ล้านบาท และถ้าคุณยื่นกู้กับธนาคารที่มีโปรโมชั่นร่วมกับโครงการ หรือธนาคารที่สนับสนุนเงินกู้ซื้อคอนโด ก็จะได้รับเงินกู้ที่มากขึ้นไปอีก แต่ทั้งนี้ต้องทราบก่อนว่า มูลค่าที่กู้ได้นี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นมูลค่าที่เหมาะสมต่อการผ่อน เพราะการผ่อนจะอยู่ที่ล้านละ 7,000 บาท ดังนั้น ถ้าโครงการราคา 3 ล้านต้องผ่อน 21,000 บาท ถ้าลงทุนคอนโดในราคาเต็มพิกัด สภาพคล่องทางการเงินของคุณอาจจะตึงเกินไป คนส่วนใหญ่เลยมักยื่นกู้เพียง 1 ใน 3 ของเงินเดือน แต่ความสามารถในการผ่อนนี้คิดจากเงินเดือนเท่านั้น ถ้าคุณคิดว่าพร้อมก็ลุยเลย



6. ซื้อคอนโดเกินกำลังที่จะผ่อนไหว

ภาวะนี้มือใหม่ซื้อคอนโดน่าจะเป็นกันมาก ตอนแรกดูจำนวนเงินผ่อนต่อเดือนแล้วคิดว่าไหว แต่สุดท้ายเมื่อมีเรื่องฉุกเฉินที่ทำให้ต้องเพิ่มรายจ่าย ก็ไม่สามารถที่จะผ่อนชำระตามที่ตั้งใจไว้ได้ หรือบางคนก็ลืมคิดถึงค่าใช้จ่ายส่วนตัวในชีวิตประจำวันอื่น ๆ ทำให้เมื่อมีภาระการผ่อนคอนโดเข้ามา ก็เกิดปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินได้


7. ไม่ได้เตรียมงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกจากค่าสินเชื่อ

มือใหม่ซื้อคอนโดอาจไม่ทราบว่า นอกเหนือจากค่าสินเชื่อ ยังมีค่าใช้จ่ายก่อนเข้าอยู่คอนโดด้วย ซึ่งถ้าคอนโดนั้นไม่มีโปรโมชั่นใด ๆ คุณก็จะต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ 100,000 บาทเลยทีเดียว เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย เช่น ค่าทำสัญญาที่จะเกี่ยวกับเอกสารสัญญาต่าง ๆ ประมาณ 30,000 บาท, ค่าส่วนกลาง คิดเป็นต่อตารางเมตร/ต่อเดือน เก็บล่วงหน้า 1 ปี ไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท, ค่าธรรมเนียมการโอนสิทธิ์ 2% ของราคาขายที่ โครงการกับเราจะจ่ายคนละครึ่ง, ค่ามิเตอร์ไฟฟ้าประมาณ 5,000 บาท เป็นต้น


8. ซื้อคอนโดโดยไม่ต้องอ่านสัญญาให้ละเอียดก็ได้ถ้ามั่นใจ

สำหรับข้อนี้ถือว่าอันตรายมากสำหรับมือใหม่ อย่ามั่นใจจนละเลยเรื่องสัญญาเป็นอันขาด ถ้าไม่อยากยุ่งยากในภายหลัง


9. คอนโดที่ดีต้องรีบซื้อ ไม่อย่างนั้นจะเสียโอกาส

อย่าใจร้อนกับการลงทุนคอนโด เพราะนี่คือภาระผูกพันระยะยาว คุณต้องดูจนแน่ใจว่าสิ่งที่เลือกตรงใจคุณ ไม่ว่าจะชั้น ห้องที่ต้องการ อย่ารีบซื้อเพียงเพราะคำพูดเชียร์ของเซลล์ ที่ต้องการจะขายห้องที่อยากขาย มากกว่าห้องที่ดีและเหมาะสมกับคุณจริง ๆ

จะเห็นว่ามีข้อเข้าใจผิดในการลงทุนอยู่หลายอย่างทีเดียว ดังนั้น ถ้าต้องการลงทุนคอนโด คุณจะต้องทำความเข้าใจกับทุกกระบวนการอย่างถี่ถ้วน อย่าใจร้อนในการพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญต้องคิดเผื่อ และคิดแบบไม่เข้าข้างตัวเองด้วย เพื่อให้การลงทุนของคุณคุ้มค่า และสร้างผลกำไรได้ในอนาคต